นโยบายความเป็นส่วนตัว
Mitsubishi Electric Asia (Thailand) Co., Ltd.
1. นโยบายความเป็นส่วนตัว
- 1.1. บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด (ME-TH บริษัท/เรา/ของบริษัท) มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ผู้ขาย ซัพพลายเออร์ ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้เยี่ยมชม ผู้ใช้ และบุคคลที่ติดต่อหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว (ท่าน/ของท่าน) ที่ติดต่อหรือได้รับการติดต่อจากบริษัท หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท (เว็บไซต์) นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ (นโยบายความเป็นส่วนตัว) จะกำหนดแนวทางปฏิบัติของบริษัทในการเก็บรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล และมีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และวิธีการที่บริษัทจะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านเลือกว่าจะมอบให้แก่บริษัท
- 1.2. หากท่านเป็นลูกค้าของบริษัท รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะระบุไว้ในสัญญาที่ท่านทำไว้กับบริษัท ทั้งนี้ อาจมีการแจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานบางประการที่บริษัทมีความประสงค์จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยที่ท่านสามารถเลือกเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมการใช้งานที่เลือกไว้ เมื่อบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน
- 1.3. เว็บไซต์ของบริษัทอาจเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกอื่น ๆ หากท่านคลิกลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก โปรดทราบว่าเว็บไซต์นั้น ๆ มีนโยบายความเป็นส่วนตัวของตนเอง และบริษัทจะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดต่อนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกหรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดตรวจสอบนโยบายเหล่านี้ก่อนที่ท่านจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว
- 1.4. นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายหลักปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของบริษัทและครอบคลุมหัวข้อดังต่อไปนี้
2. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวท่านที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม
- 2.1. บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (เรียกโดยรวมว่า ดำเนินการ) ข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ เกี่ยวกับตัวท่านทั้งหมดหรือบางส่วนตามฐานทางกฎหมาย (ตามที่อภิปรายด้านล่าง)
- ก) ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัท
ในระหว่างการติดต่อกับบริษัท บริษัทอาจขอให้ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน- (1) เมื่อท่านซื้อ ส่งซ่อม หรือส่งคืนผลิตภัณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งของบริษัท บริษัทอาจขอให้ท่านให้ข้อมูล เช่น ชื่อ รายละเอียดการติดต่อ ข้อมูลการชำระเงิน รวมถึงรายละเอียดบัญชีธนาคาร เอกสารองค์กร ข้อมูลพนักงาน และใบแสดงรายการทางการเงินของท่าน
- (2) เมื่อท่านติดต่อบริษัท บริษัทอาจเก็บข้อมูล เช่น ชื่อ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และนามบัตร โดยบริษัทอาจบันทึกคำถามของท่านและการติดต่อสื่อสารโต้ตอบของท่านกับบริษัท
- (3) บริษัทอาจขอให้ท่านกรอกแบบสำรวจที่บริษัทใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น ชื่อ วันเกิด รายละเอียดการติดต่อ และความสนใจ
- (4) เมื่อท่านสร้างบัญชีเพื่อใช้บริการออนไลน์ของบริษัท บริษัทอาจขอให้ท่านให้ข้อมูล เช่น ชื่อ วันเกิด รายละเอียดการติดต่อ ความสนใจ และจดหมายข่าวในหัวข้อที่สนใจ
- (5) เมื่อท่านเข้ามาที่บริษัท บริษัทอาจขอให้ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง และใบรับรองแพทย์
- (6) เมื่อท่านเข้าร่วมการจัดกิจกรรมหรืองานสัมมนาของบริษัท บริษัทอาจถ่ายภาพและวิดีโอของท่านในระหว่างกิจกรรมหรืองานสัมมนาดังกล่าว
- ข) ข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งอื่น
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะที่บุคคลทั่วไปและบุคคลภายนอกเข้าถึงได้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ลูกค้าและผู้ขายของบริษัท - ค) ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเพื่อการใช้งานเว็บไซต์และการสื่อสาร
รายละเอียดการเยี่ยมชมเว็บไซต์และข้อมูลที่เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หมายเลขประจำเครื่องและชื่อโดเมนของท่าน เวอร์ชันเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการของท่าน ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง บันทึกการใช้เว็บ และข้อมูลการสื่อสารอื่น ๆ และแหล่งข้อมูลที่ท่านเข้าถึง
- ก) ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัท
3. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- 3.1. ในหมวดนี้เป็นการกำหนดวัตถุประสงค์ที่บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไปใช้ และระบุ “ฐานตามกฎหมาย” ที่บริษัทใช้ในการประมวลผลข้อมูลโดยเป็นไปตามภาระผูกพันของบริษัทภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย หากปราศจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์เพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้ได้ เช่น บริษัทอาจไม่สามารถทำสัญญากับท่านหรือนิติบุคคลของท่านได้
- 3.2. “ฐานตามกฎหมาย” ในที่นี้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) ซึ่งอนุญาตให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ต่อเมื่อการประมวลผลดังกล่าวได้รับอนุญาตโดย "ฐานตามกฎหมาย" เฉพาะที่กำหนดไว้ในกฎหมาย (สามารถดูคำอธิบายฉบับเต็มของฐานแต่ละประการในที่นี้ได้ในภาคผนวก)
- 3.3. โปรดทราบว่านอกเหนือจากการประมวลผลที่บริษัทระบุไว้ด้านล่าง บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทอธิบายไว้ในประกาศนี้แก่ผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา ตัวแทน ที่ปรึกษา (เช่น ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ด้านการเงิน ด้านธุรกิจ หรือด้านอื่นๆ) และบริษัทในเครือของเราที่ดำเนินกิจกรรมในนามของบริษัท ตลอดจนสมาชิกอื่น ๆ ของกลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ อิเล็คทริค
- ก) เพื่อสื่อสารกับท่านอย่างมีประสิทธิภาพและดำเนินธุรกิจของบริษัท
เพื่อดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงการตอบข้อสงสัยของท่าน เพื่อสื่อสารกับท่านด้วยวัตถุประสงค์อื่น หรือเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันของบริษัทที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงใด ๆ ที่ได้ทำแล้วหรือที่จะทำระหว่างท่านกับบริษัท
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันและให้บริการแก่ท่านได้) - ข) เพื่อจัดหาสื่อการตลาดให้แก่ท่าน
เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและข้อเสนอแก่ท่าน ในกรณีที่ท่านได้เลือกรับข้อมูลดังกล่าวนี้ บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อทำการตลาดให้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทและของพันธมิตรทางธุรกิจที่บริษัทเลือกให้แก่ท่านทางไปรษณีย์ อีเมล บริการข้อความสั้น (SMS) โทรศัพท์และโทรสาร และในกรณีที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในเวลาที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการตลาดประเภทนี้ โดยบริษัทจะขอรับความยินยอมจากท่านในการสื่อสารการตลาดทางอิเล็กทรอนิกส์ก่อนดำเนินการดังกล่าว
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
ความยินยอม (เพื่อให้ท่านได้รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท) - ค) เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยและพัฒนา
เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำความเข้าใจบริการและข้อกำหนดทางการตลาดของท่านและลูกค้ารายอื่น ๆ ของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น เพื่อทำความเข้าใจธุรกิจของบริษัทและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (เพื่อให้บริษัทสามารถปรับปรุงการให้บริการได้) - ง) เพื่อตรวจติดตามกิจกรรมบางประการ
เพื่อตรวจติดตามข้อสงสัยและธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการบริการ การปฏิบัติตามขั้นตอน และเพื่อต่อต้านการทุจริต
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
เพื่อภาระผูกพันทางกฎหมาย การเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (เพื่อให้มั่นใจว่าบริการของบริษัทมีคุณภาพและเป็นไปตามกฎหมาย) - จ) เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงบริการของบริษัท) - ฉ) เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาเว็บไซต์มีความเกี่ยวข้อง
เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาเว็บไซต์ของบริษัทได้รับการนำเสนอในลักษณะที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับท่านและอุปกรณ์ของท่าน ซึ่งอาจรวมถึงการส่งข้อมูลของท่านไปยังคู่ค้าทางธุรกิจ ซัพพลายเออร์ และ/หรือผู้ให้บริการ
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (เพื่อให้บริษัทสามารถจัดหาเนื้อหาและบริการบนเว็บไซต์ให้แก่ท่าน) - ช) เพื่อการปรับโครงสร้างองค์กรหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจของบริษัท
ในกรณีที่บริษัท (1) ต้องปฏิบัติตามการเจรจาเพื่อการขายธุรกิจของบริษัทหรือส่วนหนึ่งของธุรกิจให้แก่บุคคลภายนอก (2) ถูกขายให้แก่บุคคลภายนอก หรือ (3) มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ บริษัทอาจจำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง (หรือที่ปรึกษาของบุคคลภายนอกดังกล่าว) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence Process) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิเคราะห์การขายหรือการปรับโครงสร้างองค์กรตามที่เสนอ บริษัทอาจจำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังนิติบุคคลที่ได้รับการปรับโครงสร้างแล้วหรือบุคคลภายนอกหลังการขายหรือการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้บุคคลดังกล่าวนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกันกับที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (เพื่อให้บริษัทสามารถเปลี่ยนแปลงธุรกิจของบริษัทได้) - ซ) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาระผูกพันทางกฎหมายหรือที่ควบคุมบังคับ
บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่ควบคุมบังคับของบริษัทหรือการเจรจากับหน่วยงานกำกับดูแลตามความเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลภายนอก บริการศาล และ/หรือหน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการสอบสวน การพิจารณาคดี หรือการสืบสวนโดยบุคคลดังกล่าวไม่ว่าที่ใดในโลกหรือที่ใดก็ตามที่บังคับให้ทำการดังกล่าว ในกรณีที่สามารถทำได้ บริษัทจะส่งคำร้องขอดังกล่าวถึงท่านหรือแจ้งให้ท่านทราบก่อนตอบรับ เว้นแต่การดังกล่าวจะส่งผลต่อการป้องกันหรือการตรวจจับอาชญากรรม
เหตุผลในการใช้ข้อมูล
เพื่อภาระผูกพันทางกฎหมาย การเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (เพื่อให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานที่ควบคุมบังคับ)
- ก) เพื่อสื่อสารกับท่านอย่างมีประสิทธิภาพและดำเนินธุรกิจของบริษัท
4. การส่งผ่าน การจัดเก็บ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ต
- 4.1. การส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะปลอดภัยจากการบุกรุก อย่างไรก็ตาม บริษัทจะคงไว้ซึ่งการป้องกันทางกายภาพ การป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์ และการป้องกันตามขั้นตอนตามสมควรในเชิงพาณิชย์ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อกำหนดทางกฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูล
- 4.2. ข้อมูลทั้งหมดที่ท่านให้แก่บริษัทจะจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัยของบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ และประเทศญี่ปุ่น และจะมีการเข้าถึงและใช้งานตามนโยบายและมาตรฐานความปลอดภัยของบริษัท ในกรณีที่บริษัทให้รหัสผ่านแก่ท่าน (หรือกรณีที่ท่านเลือกรหัสผ่าน) ซึ่งทำให้ท่านสามารถเข้าถึงบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทได้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บรักษารหัสผ่านนี้ไว้เป็นความลับ และต้องปฏิบัติตามกระบวนการรักษาความปลอดภัยอื่นใดที่บริษัทแจ้งให้ท่านทราบ บริษัทขอให้ท่านอย่าแจ้งรหัสผ่านแก่บุคคลใด ๆ
การส่งข้อมูลออกนอกประเทศไทย
- 4.3. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเข้าถึงโดยผู้ปฏิบัติงานหรือซัพพลายเออร์ ถ่ายโอนไปยัง และ/หรือจัดเก็บที่ปลายทางนอกประเทศไทย ซึ่งกฎหมายคุ้มครองข้อมูลในพื้นที่นั้นอาจมีมาตรฐานต่ำกว่าในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ในทุกกรณี
- 4.4. ในกรณีที่บริษัทถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลจากประเทศไทยไปยังนอกประเทศไทย บริษัทอาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในบางประเทศนอกประเทศไทยอาจได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีการคุ้มครองที่สำคัญเทียบเท่ากับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของไทย ในประเทศที่ไม่ได้รับการอนุมัติ บริษัทจะกำหนดฐานตามกฎหมายในการโอนข้อมูลดังกล่าว เช่น ความยินยอมของท่าน หรือฐานตามกฎหมายอื่น ๆ ที่ข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับใช้อนุญาตให้กระทำได้
- 4.5. โปรดติดต่อบริษัทที่ dpo_ME-TH@asia.meap.com หากท่านต้องการดูสำเนาการป้องกันเฉพาะที่ปรับใช้กับการส่งออกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ขอบเขตในการจัดเก็บข้อมูล
- 4.6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทจะขึ้นอยู่กับความจำเป็นทางธุรกิจและข้อกำหนดทางกฎหมาย บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวม ตลอดจนวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้องที่ได้รับอนุญาต เช่น บริษัทอาจเก็บรายละเอียดการทำธุรกรรมและการติดต่อทางธุรกิจบางประการไว้จนครบอายุความสำหรับการเรียกร้องสิทธิที่เกิดจากธุรกรรมดังกล่าว หรือเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ควบคุมบังคับเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป บริษัทอาจทำให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลแบบไม่เปิดเผยชื่ออย่างถาวร (และบริษัทอาจเก็บรักษาและใช้ข้อมูลที่ไม่เปิดเผยชื่อนั้นต่อไป) หรือทำลายข้อมูลดังกล่าวอย่างปลอดภัยก็ได้
5. สิทธิของท่านและการติดต่อบริษัท
การตลาด
- 5.1. เพื่อการทำการตลาดออนไลน์บนเว็บไซต์ของบริษัทที่ปรับให้เข้ากับความต้องการหรือความสนใจของท่าน บริษัทจะใช้เทคโนโลยีการตัดสินใจอัตโนมัติที่ติดตามข้อมูล เช่น ประวัติการเรียกดูข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัท ลิงก์ที่ท่านคลิกบนอีเมลของบริษัท หรือแอปพลิเคชันมือถือที่ท่านใช้งาน
- 5.2. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดรวมทั้งวัตถุประสงค์ข้างต้น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเป็นกรณีไป เมื่อบริษัทประสงค์ที่จะใช้ข้อมูลของท่านเพื่อกิจกรรมทางการตลาดบางประเภท หรือเมื่อบริษัทประสงค์ที่จะเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลภายนอกบางประเภทเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว ท่านสามารถใช้สิทธิในการป้องกันการประมวลผลดังกล่าวได้โดยไม่เลือกช่องใดช่องหนึ่งในแบบฟอร์มที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ท่านยังสามารถใช้สิทธิได้ตลอดเวลาโดยติดต่อบริษัทที่ dpo_ME-TH@asia.meap.com
การปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
- 5.3. บริษัทจะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการนี้ ท่านควรแจ้งให้บริษัททราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัทโดยติดต่อที่ dpo_ME-TH@asia.meap.com
สิทธิของท่าน
- 5.4. หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านควรติดต่อบริษัทที่ dpo_ME-TH@asia.meap.com เป็นอันดับแรก ภายใต้เงื่อนไขบางประการ ท่านอาจมีสิทธิเรียกร้องให้บริษัทดำเนินการดังต่อไปนี้
- ก) ให้ท่านเข้าถึงข้อมูลของท่านและให้สำเนาข้อมูลดังกล่าวแก่ท่าน
- ข) ให้ข้อมูลของท่านแก่ท่านและถ่ายโอนข้อมูลของท่านในรูปแบบที่เครื่องอ่านได้ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น
- ค) ปรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องซึ่งบริษัทเก็บไว้ให้เป็นปัจจุบัน (โปรดดูข้อ 5.3)
- ง) ลบข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่บริษัทไม่มีฐานตามกฎหมายที่จะใช้อีกต่อไป
- จ) เพิกถอนความยินยอมของท่านเพื่อให้บริษัทหยุดการประมวลผล เฉพาะในกรณีที่การประมวลผลขึ้นอยู่กับความยินยอม (ดูข้อ 5.1 สำหรับการตลาด);
- ฉ) คัดค้านการประมวลผลใด ๆ ตามประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่เหตุผลของบริษัทในการดำเนินการประมวลผลนั้นมีน้ำหนักเหนือกว่าผลกระทบต่อสิทธิในการคุ้มครองข้อมูลของท่าน และ
- ช) จำกัดวิธีการที่บริษัทใช้ข้อมูลของท่านในบางกรณี (เช่น ในระหว่างการสืบสวนข้อร้องเรียน)
- 5.5. การใช้สิทธิของท่านอยู่ภายใต้ข้อยกเว้นทางกฎหมายบางประการ หากท่านใช้สิทธินี้ไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่ง บริษัทจะตรวจสอบสิทธิของท่านและโดยส่วนใหญ่ตอบกลับภายในหนึ่งเดือน
- 5.6. หากท่านไม่พอใจการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือการตอบกลับของบริษัทต่อการใช้สิทธิดังกล่าวนี้ ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การติดต่อบริษัท
- 5.7. บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายนี้
- 5.8. หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับนโยบายนี้ โปรดติดต่อบริษัทที่ dpo_ME-TH@asia.meap.com
- 5.9. หากท่านต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โปรดติดต่อที่ dpo_ME-TH@asia.meap.com
6. นโยบายคุกกี้
- 6.1. บริษัทใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมว่าบริษัทบริษัทใช้คุกกี้อย่างไร โปรดดู นโยบายคุกกี้ของบริษัท
7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวและ/หรือนโยบายคุกกี้ของบริษัท
- 7.1. บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของเว็บไซต์ของบริษัทและวิธีการที่บริษัทใช้งานคุกกี้ ด้วยเหตุนี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวและนโยบายคุกกี้ของบริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นกรณีไปในอนาคต หากบริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้หรือนโยบายคุกกี้ของบริษัท บริษัทจะปรับข้อมูลวันที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุดด้านล่างให้เป็นปัจจุบัน หากการเปลี่ยนแปลงในที่นี้เป็นสาระสำคัญ บริษัทจะระบุไว้อย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ของบริษัท
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565
ภาคผนวก
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลของไทยต้องมีมูลเหตุภายใต้ “ฐาน” ใดฐานหนึ่งตามกฎหมายรองรับ และบริษัทจำเป็นต้องกำหนดฐานในการใช้แต่ละครั้งในนโยบายนี้ โดยบริษัทได้ระบุฐานที่บริษัทใช้เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องในการใช้ข้อมูลของท่านแต่ละครั้งต่อจากรายละเอียดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในหมวด “การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน” ของนโยบายนี้
รายละเอียดเหล่านี้คือฐานตามกฎหมายที่สำคัญเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องในการใช้ข้อมูลของท่าน
- ความยินยอม
- ในกรณีที่ท่านยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลของท่าน (ท่านจะได้รับแบบฟอร์มยินยอมที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานดังกล่าว และอาจเพิกถอนความยินยอมของท่านได้โดยติดต่อบริษัทที่ dpo_ME-TH@asia.meap.com)
- การปฏิบัติตามสัญญา:
- ในกรณีที่ข้อมูลของท่านมีความจำเป็นในการเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน
- ภาระผูกพันตามกฎหมาย
- ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องใช้ข้อมูลของท่านเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายของบริษัท
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ในกรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลของท่านเพื่อให้ได้รับประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และเหตุผลของบริษัทในการใช้ข้อมูลมีน้ำหนักเหนือกว่าผลกระทบต่อสิทธิในการคุ้มครองข้อมูลของท่าน
- การเรียกร้องสิทธิทางกฎหมาย
- ในกรณีที่ข้อมูลของท่านจำเป็นต่อบริษัทในการป้องกัน ดำเนินคดี หรือเรียกร้องสิทธิจากท่าน บริษัท หรือบุคคลภายนอก
(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)